1.ล่าสุดกะซวกชัย 6 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก พลางวางตูดอยู่บนอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังทีมจ่าฝูง 6 แต้ม และทิ้งห่างทีมอันดับ 5 ถึง 5 แต้ม
พวกเขายังคงเป็นทีมเดียวที่บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ ลิเวอร์พูล ถึงถิ่น และบุกไปอัด แมนยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึงมีชัยเหนือ แอสตัน วิลล่า กับ สเปอร์ส
2. ผู้เป็นกุนซือค้นพบทีมที่เหมาะสม ลงตัว แล้วใช้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้เล่นหลายคนระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมออกมา
หัวหอกวัย 33 ขวบ อย่าง คริส วู้ด ตะบันไปแล้ว 12 ประตู
หน้าต่ำอย่าง มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ ก็ทั้งเร็วและคล่อง มิหนำยังทำลายตาข่ายได้เฉียบคมอีกตะหาก
แบ็คขวาชาวไนจีเรียอย่าง โอลา ไอน่า ก็โดดเด่น เช่นเดียวกับตัวรุกริมเส้นอย่าง แอนโธนี่ อีลันก้า และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย
3. กุญแจสำคัญที่ผมสังเกตเห็นอยู่ที่เกมรับ
เกมรับของทีมเจ้าป่ามีความเหนียวแน่น และเสียประตูยาก ด้วยวิธีการเล่นเกมรับที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ติดตั้งเอาไว้ให้ แถมยังมีคู่เซ็นเตอร์แบ็คที่แข็งแกร่งอย่าง นิโคล่า มิเลนโควิช กับ มูริลโล่
ฤดูกาลนี้ พวกเขาเพิ่งเสียไปแค่ 19 ประตูจาก 20 นัด เฉลี่ยต่อ 1 นัด เสียไม่ถึง 1 ประตู
มิเท่านั้น ฟอเรสต์ ไม่เสียประตูมาแล้วถึง 4 เกมติดต่อกัน หรือเรียกว่าชนะเกม 0 มา 4 เกมติดต่อกัน - คิดเอา !!!
4. ลองคิดดูนะครับ สมมุติว่าตัดทีมจ่าฝูงออกไป
ฟอเรสต์ กับ อาร์เซน่อล กำลังบดบี้แย่งแชมป์กันอย่างเมามัน โดยมี เชลซี กับ นิวคาสเซิ่ล เป็นตัวสอดใส่ เอ๊ย ! สอดแทรก 55555
5. ในฐานะเด็กบ้าบอลจากยุค 80"s
ผมแอบเอาใจช่วย "เจ้าป่า" ให้ติด "ท็อปโฟร์" เพื่อกลับไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1981 ที่ตัวเองเข้าไปป้องกันแชมป์
ปัญหาคือมีความเป็นไปได้สูงที่ "นูโน่" จะได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนธันวาคมที่ผ่านมา (ชนะ 5 แพ้ 1) เป็น "บ้องอาถรรพ์"
มิหนำเกมต่อไปคือการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของพวกพรี่ๆ เขานี่สิ