1. "เจ้าป่า" มาสูตรเดิมเหมือนที่เคยบุกไปเหยียบจมูก ลิเวอร์พูล ถึงถิ่นนั่นแหละ คือถอยมาตั้งรับในแดนตัวเอง เพื่อปิดพื้นที่ แล้วรอจังหวะโต้กลับฉับพลัน
พวกเขาตั้งรับอยู่ 7 นาที กระทั่งได้สวนครั้งแรกแล้วได้ประตูนำทันที !!!
2. จังหวะจู่โจมแบบลอบสังหารชอตนี้ เฉียบคม และเด็ดขาดดีนักแลจนต้องขออนุญาตบันทึกไว้
เมื่อ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย แย่งบอลจาก โม ซาล่าห์ ได้แถวๆ กลางสนาม เขารีบผ่านบอลเร็วให้ แอนโธนี่ อีลันก้า โดยพลัน ก่อนที่อดีตเด็กผีผู้นี้จะแทงทะลุช่องให้ คริส วู๊ด สับกงล้อตีนเข้าไปตะบันด้วยซ้ายเสียบโคนเสาไกลเข้าไปอย่างสวยลากไส้
แบบนี้ก็เข้าสูตรซีครับ !!!
3. เกมรับของ ฟอเรสต์ เหนียวแน่นจริงๆ
เวลาตั้งรับจะโหลดผู้เล่นเข้ามาอยู่ในเขตโทษอย่างต่ำๆ ถึง 7 คน ยั่วเยี๊ยะไปหมด
แม้ ลิเวอร์พูล จะครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว แถมมีโอกาสยิงร่วมๆ 10 ครั้งในครึ่งแรก แต่ข้ามคานและหลุดกรอบ เหตุเพราะถูกคับให้ให้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่นับไอ้ที่ยิงติดบล็อคอีก
เจาะทางด้านข้างแล้วเปิดเข้ามาก็ติด เจาะตรงกลางก็ติด เห็นแล้วอึดอัดแทนจริงๆ
ประตูเดียวที่เสียในเกมนี้ก็มาจากลูกเตะมุม คิดเอา
4. รูปเกมครึ่งหลังก็แทบไม่ต่างจากครึ่งแรก
ลิเวอร์พูล พยายามเร่งเครื่องพลางบุกอยู่ข้างเดียว แต่ยังหาทางยิงแบบเหน่งๆ ไม่ค่อยเจอ เวลาแม่งก็ผ่านไปเรื่อยๆ ความกดดันยิ่งมากขึ้น
นั่นส่งผลให้ อาร์เน่อ ชล๊อต ต้องยอมเสี่ยงอีกครั้ง ด้วยการถอดกองหลังอย่าง อิบู โกนาเต้ ออก แล้วส่งหัวหอกอย่าง ดิโอโก้ โชต้า ลงมาแทน
และสัมผัสแรกของ ดีโอโก้ เจ คือโหม่งลูกเตะมุมตีเสมอให้ ลิเวอร์พูล !!!
5. หลังจากเสียประตู ดูเหมือนทีมเจ้าบ้านจะเสียดาย เสียดายที่รักษาประตูนำเอาไว้ไม่ได้ ทั้งที่เล่นเกมรับเหนียวแน่นมาตลอด
ว่าแล้วก็พยายามเปิดเกมรุกเข้าแลกมากขึ้น เกมจึงเปิดมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่พวกพรี่ๆ เขาชื่นชอบ
ผมล่ะอยากจะส่งพลังจิตไปบอกนักเตะทีมเจ้าป่าเหลือเกินว่า...อย่าใช้อารมณ์จนลืมความเจียมเนื้อเจียมตัวซี่ย์ พวกมึงคิดผิดนะที่เหิมเกริมแบบนั้น
เดี๋ยวจะ "เด๊ดห่า" ไม่รู้ตัว !!!
แต่สุดท้าย ฟอเรสต์ ก็รอดพ้นจากความชิบหายได้อย่างหวุดหวิด เพราะมีหลายจังหวะที่จ่าฝูงเกือบจะแซงนำ
โบนัส แทร็ค: ตั้งแต่ปีใหม่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ชนะใครในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ไม่เสียหายอะไรนักหรอก เพราะทีมที่เสมอในเกมล่าสุดอย่าง "สิงห์สั่งป่า" คือทีมที่ฟอร์มดีกว่า อาร์เซน่อล, เชลซี และแมนฯ ซิตี้
"บอ.บู๋"