"เดอะ เร้ดส์" ออกจากถิ่น ซิตี้ กราวนด์ ด้วยผล น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 เกมลีกกลางสัปดาห์นี้ ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ลีกกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง เพราะ อาร์เซน่อล ไล่บี้เหลือแค่ 4 คะแนนเท่านั้น แต่ "ปืนใหญ่" แข่งมากกว่า 1 เกม
สำหรับแมตช์เยือนถิ่นจีเทค คอมมิวนิตี สเตเดี้ยม ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะ อาร์เน่อ แอนด์ โค. ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเพิ่มระยะห่างจาก อาร์เซน่อล ดังนั้นเกมนี้ ลิเวอร์พูล จึงต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ แต่ทัพ "เดอะ บีส์" ก็ไม่ธรรมดาเพราะพวกเขามักทำได้ดีในสนามตัวเอง ล่าสุด แมนซิตี้ ก็โดนทีเด็ดของพวกเขาในเกมเสมอ 2-2 มาแล้ว
กระนั้นหากมองจากสถิติในการเล่นเกมเยือนในพรีเมียร์ลีกของ ลิเวอร์พูล ถือว่าโดดเด่นมากๆ เมื่อเก็บได้ 24 คะแนนจาก 30 แต้ม ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ก็ใช่ย่อยเพราะพวกเขามีสถิติเล่นเกมในบ้านได้ดีเป็นอันดับ 3 เมื่อเก็บได้ 23 แต้ม
ดังนั้นในแมตช์นี้ อาร์เน่อ ต้องพยายามจัดทัพชุดที่ดีที่สุดเพื่อคว้าชัยชนะให้เกมนี้ให้ได้ เพราะการไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และถ้าหากพลาดไม่สามารถคว้า 3 แต้มได้งานนี้บอกเลยว่าการลุ้นแชมป์ยิ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์
สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงทำหน้าที่ได้ดี และ ลิเวอร์พูล ยังคงต้องการความสามารถในการป้องกันประตู และการเปิดบอลที่รวดเร็วของ "พ่อหมี" เพราะมันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมได้เลย
กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
"รองเทรนต์" ทำผลงานได้ดีขึ้นในเกมกับ ฟอเรสต์ แต่จังหวะการเล่นเกมรุกยังไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม โค้ชอาร์เน่อ ยังต้องการความยอดเยี่ยมในเรื่องการเปิดบอล และในแมตช์กับ เบรนท์ฟอร์ด สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างความแตกต่าง ขณะที่ฝั่งซ้ายหลายคนมองว่า โรเบิร์ตสัน ฟอร์มตกไปเยอะ และควรให้โอกาส คอสตาส ซิมิกาส ลงสนาม อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์และการเล่นที่คงเส้นคงวา "ร็อบโบ้" ยังมีความสำคัญกับทีม สำหรับคู่เซนเตอร์แบ็กตอนนี้คงต้องไว้วางใจ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เท่านั้น เพราะ โจ โกเมซ ยังคงพักฟื้นร่างกาย ส่วน จาเรลล์ ควอนซาห์ ต้องสะสมประสบการณ์อีกสักพักใหญ่ๆ
กองกลาง : อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โดมินิค โซโบซไล
สำหรับแผงมิดฟิลด์เชื่อว่า กุนซือชาวดัตช์ ยังคงยึดมั่นในสามประสานอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์, กราเฟนแบร์ก และ โซโบซไล เหมือนเดิม เพราะในเกมล่าสุดพวกเขาทำผลงานได้ดี แต่ขาดอย่างเดียวก็คือการมีส่วนช่วยทำประตูเท่านั้น ด้วยพลังการขับเคลื่อนของพวกเขามีประโยชน์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามถ้าหากทีมต้องการเล่นโดยเน้นครองบอล และเจาะพื้นที่แคบมากกว่าการเติมเกมแบบดุดัน ก็มีโอกาสที่จะส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงสนามก็ได้
กองหน้า : โกดี้ คักโป, หลุยส์ ดิอาซ , โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ในส่วนของเกมรุกแม้ว่า ดาร์วิน นูนเญซ จะพ้นโทษแบนกลับมาแล้วก็ตาม แต่คงต้องนั่งสำรองไปก่อน ขณะที่ โชต้า คงต้องลุ้นหนักเพราะยังไม่สามารถซ้อมกับทีมได้ ฉะนั้นตำแหน่งแนวรุกยังคงเป็นชุดเดิมที่เสมอกับ ฟอเรสต์ โดยนี่ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสามคนจะได้แก้ตัว หลังฟอร์มสะดุดหลายเกมนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2025 แต่แมตช์นี้ ลิเวอร์พูล ยังคงต้องการใช้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวของสามประสาน เนื่องจากเกมรับของ "ผึ้งน้อย" ค่อนข้างเหนียวแน่น ฉะนั้น "หงส์แดง" ต้องอาศัยความยอดเยี่ยมของพวกเขาในการเจาะเข้าไปทำประตู
ทอมเม้ง
