1. ผึ้งพิฆาตปรับโผหนึ่งจุด
เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งนัดก่อนสร้างความช็อกเปิดบ้านไล่ตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2 ในช่วงทดเวลาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเปลี่ยนทีมตัวจริงแค่รายเดียวเท่านั้นในการรับมือกับทีมจ่าฝูง
โธมัส แฟร้งค์ นายใหญ่ ผึ้งพิฆาต เลือกโรเตชั่นนักเตะในแดนกลางด้วยการส่ง เยฮอร์ ยาร์โมลิก ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน มาติอัส เยนเซ่น ที่นั่งอยู่ข้างสนาม
นอกจากนี้ เจ้าบ้านมี ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ อดีตปีก หงส์แดง รวมอยู่ในโผตัวสำรองด้วยเช่นกัน ขณะที่ เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง
2. หงส์ไร้ โชต้า เดี้ยงอีกรอบ
ลิเวอร์พูล บุกมาบู๊กับ เบรนท์ฟอร์ด โดยปราศจาก ดีโอโก้ โชต้า ฮีโร่ตัวสำรองที่ลุกจากม้านั่งลงไปยิงให้ทีมบุกไปไล่ตีเสมอ ฟอเรสต์ 1-1 ในเกมกลางสัปดาห์
ตัวรุกทีมชาติ โปรตุเกส มีอาการบาดเจ็บรบกวนอีกรอบถึงขนาดไม่มีชื่อเดินทางมากับทีม แต่รวมแล้ว อาร์เน่อ สล็อต สลับโผตัวจริงแค่รายเดียวจากนัดเจ๊ากับ เจ้าป่า ในตำแหน่งแบ็ตซ้ายโดย คอสตาส ซิมิคาส เบียด แอนดี้ โรเบิร์ตสัน หล่นไปนั่งข้างสนาม
แม้จะยังถูกยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่ เร้ด เดวิลส์ หมดพิษสงไปเยอะนับตั้งแต่เข้าสู่ครึ่งซีซั่นหลังเนื่องจากพวกเขาเก็บได้แค่สองแต้มจากสองเกมหลังของการลงเตะศึก พรีเมียร์ลีก
3. เฮนัดที่ 6,000
ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมนี้เป็นการฟาดแข้งอย่างเป็นทางการนัดที่ 6,000 พอดีในประวัติศาสตร์ของสโมสรซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1892 หรือ 132 ปีก่อน
แม้สองแมตช์ก่อนหน้านี้ พวกเขาจะทำได้แค่เสมอในเกมลีกนัดบู๊กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ฟอเรสต์ แถมล่าสุดหวิดเจ๊ากับ เบรนท์ฟอร์ด แบบโนสกอร์ด้วยซ้ำ
แต่สุดท้าย เร้ด แมชีน คว้าสามแต้มได้สำเร็จแทนที่จะเสมอสามนัดติดเมื่อได้ นูนเญซ กองหน้าจอมทื่อแผลงฤทธิ์ได้ในแมตช์สำคัญ หาไม่แล้วทีมจ่าฝูงจะกดดันอย่างหนักหากไม่อาจพิชิต เดอะ บีส์ ได้
จากสามแต้มที่ได้มาในเกมนี้ แน่นอนว่าทำให้ทีมของ สล็อต ยังกุมความได้เปรียบในการลุ้นคว้าแชมป์ลีกหลังจากพวกเขาถูก อาร์เซน่อล ทำแต้มไล่จี้มาเหลือสี่แต้มก่อนเกมบู๊กับ ผึ้งพิฆาต แม้ หงส์แดง จะลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งนัดก็ตาม
4. เกมรุกลดความอันตราย
ผ่านมาถึงครึ่งทางของซีซั่น มันชี้ให้เห็นว่าเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ที่น่าครั่นคร้ามเริ่มลดพิษสงลงไปเยอะอันรวมถึงเกมที่ จีเท็ค คอมมิวนิตี้ ซึ่งสามกองหน้าของ หงส์แดง นัดกันเกือกทื่อแม้ทั้งหมดจะมีโอกาสหลายหน แต่ความเฉียบขาดหายไปเยอะอย่างน่าเป็นกังวล
ไม่เพียงจะได้ลูกเตะมุมอื้อซ่า แต่ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนโอกาสนี้ให้เป็นประตูไม่ได้เลยทั้งๆที่พวกเขาได้ลูกคอนเนอร์มากถึง 15 ครั้ง (เบรนท์ฟอร์ด 2 ครั้ง) แต่ไม่อาจสร้างปัญหาให้เจ้าบ้านได้
ในทางกลับกันหากเป็น อาร์เซน่อล ที่ได้ลูกเตะมุมในเกมมากถึงขนาดนี้ก็น่าคิดว่าทีมรองจ่าฝูงที่มีโค้ชเฉพาะทางจะพลาดการสอยตาข่ายหรือเปล่า
เท่านั้นไม่พอ ลิเวอร์พูล เกือบสร้างสถิติที่ย่ำแย่ด้วยหากไม่ได้ นูนเญซ สวมบทฮีโร่เนื่องจากพวกเขามีโอกาสส่องยิงมากถึง 37 ครั้งเมื่อเทียบกับเจ้าบ้านที่ได้ลุ้น 11 ครั้งซึ่งหากว่าเกมจบลงแบบไร้สกอร์ สล็อต ก็จำเป็นต้องเคี่ยวเข็ญบรรดาสตาร์อย่าง โม ซาลาห์ , โคดี้ กัคโป และ หลุยส์ ดิอาซ ให้กลับมามีความคมเหมือนก่อนให้ได้ในช่วงที่เหลือของซีซั่น
5. นูนเญซ ตัวแปรลุ้นแชมป์
หากไม่ได้ นูนเญซ พาทีมเก็บสามแต้มในเกมนี้ บอกได้เลยว่า ลิเวอร์พูล ส่อแววลำบากแน่กับการพยายามคว้าแชมป์ลีกเนื่องจากผลเสมอสามนัดติดแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เริ่มคลำเป้าคู่แข่งได้น้อยลงไปแม้ว่าพวกเขาจะยังสร้างโอกาสได้เยอะ แต่หากบอลไม่ถูกส่งเข้าปะทะตาข่ายมันก็ไร้ประโยชน์
แน่นอนว่าในบรรดากองหน้าของ ลิเวอร์พูล นูนเญซ ขี้เหร่ที่สุดจากจำนวนประตูที่เขาทำได้ และการทิ้งขว้างโอกาสทองถี่ยิบ แต่หากเขากลับมามีฟอร์มที่อันตรายเหมือนสมัยค้าแข้งกับ เบนฟิก้า เมื่อไหร่ หงส์แดง ก็จะมีอาวุธร้ายเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เปรียบคู่แข่งเมื่อวัดกันที่ขุมกำลังเชิงลึกแม้สตาร์ทีมชาติ อุรุกวัย จะยังต้องสวมบทตัวสำรองต่อไปก็ตาม
หลังเหมายิงเบิ้ลในเกมนี้ นูนเญซ เพิ่มสง่าราศรีให้ตัวเองได้มากขึ้นเนื่องจากนับตั้งแต่ย้ายมาหากินใน พรีเมียร์ลีก กองหน้าละติน ยิงประตูได้ในฐานะตัวสำรอง 7 เม็ด เป็นรองแค่ จอห์น ดูราน คนเดียว (8) แต่หากนับรวมแอสซิสต์ด้วย นูนเญซ ยืนหนึ่งจากจำนวน 11 ประตู
และอย่างที่บอก ลิเวอร์พูล มีโอกาสสับไกในเกมนี้มากถึง 37 ครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ 35 ครั้ง พวกเขาเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูไม่ได้ กระทั่ง นูนเญซ เองซึ่งหลังลุกจากม้านั่งข้างสนามคลำเป้าพลาดไปหนหนึ่งจัดการส่งบอลกระทบตาข่ายได้จากโอกาสสองหนสุดท้ายของทีม
สำหรับโอกาสยิงประตูของ ลิเวอร์พูล 37 ครั้งนัดชนะ เบรนท์ฟอร์ด นับเป็นสถิติที่มากที่สุดของพวกเขาเช่นกันในเกม พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับนัดบู๊กับ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนเม.ย.2016 เมื่อนับจากซีซั่น 2003/04 เป็นต้นมาจึงต้องถือว่าหากไม่ได้ นูนเญซ ช่วยเอาไว้ในนาทีบาป อนาคตข้างหน้าของ หงส์แดง จากนี้ไปจะเป็นยังไงย่อมยากแก่การคาดเดา