ข่าวด่วน! ผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งทุกธนาคาร ต้องรู้ทันภัยไซเบอร์ ก่อนทำธุรกรรม
ในยุคดิจิทัลที่ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารต่างๆ กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนทำกันเป็นปกติ แต่ในขณะที่ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ภัยคุกคามจากโลกไซเบอร์ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายๆ ครั้งผู้ใช้งานอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการใหม่
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูล และการโอนเงินผิดพลาดที่เกิดจากช่องโหว่ต่างๆ ในระบบโมบายแบงก์กิ้ง โดยประกาศว่าผู้ใช้บริการที่ทำธุรกรรมโอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง หรือ 200,000 บาทต่อวัน ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าเพิ่มเติม ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลกับทุกธนาคารที่ให้บริการโมบายแบงก์กิ้งในประเทศไทย
ทำไมต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม?
การทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งในปัจจุบันมีความสะดวกมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มช่องทางให้มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและทำการโอนเงินไปยังบัญชีของตนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่มักหลอกลวงให้ผู้ใช้งานคลิกลิงก์ที่ไม่ปลอดภัยเพื่อขโมยข้อมูลต่างๆ รวมถึงการแฮ็กบัญชีธนาคาร
เพื่อให้การทำธุรกรรมปลอดภัยยิ่งขึ้น ธปท. จึงได้สั่งให้ธนาคารต่างๆ ใช้มาตรการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ว่าการโอนเงินหรือการทำธุรกรรมทุกครั้งจะมีความปลอดภัยสูงสุด และลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูล
วิธีการสแกนใบหน้า และการทำธุรกรรมอย่างปลอดภัย
สำหรับผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งที่มีการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง ต้องไปที่สาขาของธนาคารเพื่อทำการสแกนใบหน้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องกังวลว่าอาจจะเกิดข้อผิดพลาดจากการจำรหัสผ่าน หรือการหลอกลวงจากเว็บไซต์ปลอม
นอกจากนี้ หากคุณมีการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากได้รับข้อความหรือโทรศัพท์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ให้ปฏิเสธและติดต่อธนาคารของคุณโดยตรงเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม
คำแนะนำสำหรับผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้ง
1. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว – อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลทางการเงินผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย เช่น ลิงก์ที่มาจากอีเมล หรือข้อความแปลกๆ
2. การยืนยันตัวตน – ควรใช้การยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าหรือระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่ธนาคารจัดให้
3. ติดตามข่าวสาร – อย่าลืมติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากธนาคารของคุณเพื่อรับทราบการอัปเดตเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
4. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง – ควรใช้รหัสผ่านที่มีความซับซ้อน และไม่ใช้รหัสที่ซ้ำกันในหลายๆ แอปพลิเคชัน
ปกป้องข้อมูลของคุณจากภัยไซเบอร์
ในโลกที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการโจรกรรมทางไซเบอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น การใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งในปัจจุบันจึงควรมีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ ในฐานะผู้ใช้งานที่ชาญฉลาด อย่าลืมใช้มาตรการความปลอดภัยที่ธนาคารแนะนำเพื่อปกป้องทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่ธนาคารได้แนะนำ คุณก็สามารถใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลกับภัยคุกคามจากโลกไซเบอร์ที่คอยซุ่มโจมตีอยู่เสมอ