โครงการพิษวิทยาแห่งชาติ (National Toxicology Program - NTP) ในสหรัฐอเมริกาได้ตีพิมพ์งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างปริมาณฟลูออไรด์ (Fluoride) และระดับสติปัญญา หรือไอคิว เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2568
โดยระบุ ยิ่งระดับสารฟลูออไรด์สะสมในปัสสาวะสูง ระดับไอคิวในเด็กจะลดลง งานวิจัยชิ้นนี้ได้รวบรวม วิเคราะห์ และเปรียบเทียบการศึกษาค้นคว้าต่าง ๆ จำนวน 74 ชิ้นจาก 10 ประเทศ เช่น จีน อินเดีย และแคนาดา ข้อสรุปข้อหนึ่งระบุว่า หากปริมาณฟลูออไรด์ในปัสสาวะเพิ่มขึ้น 1 มิลลิกรัมต่อลิตร จะทำให้ระดับไอคิวของเด็กลดลง 1.63 จุด
และหากไอคิวของประชากรลดลง 5 จุด จะมีค่าเท่ากับจำนวนคนที่มีความพิการทางสติปัญญา 2 เท่า แต่ดร. สตีเวน เลวี (Dr. Steven Levy) อาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไอโอวาออกมาแย้งว่าบทความวิชาการชิ้นล่าสุดจากโครงการพิษวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ มีข้อกังขาหลายจุด เลวีตั้งคำถามถึงคุณภาพของงานวิจัยต่าง ๆ ที่โครงการพิษวิทยานำมาใช้ประกอบ งานวิจัยจำนวน 52 จาก 74 ชิ้นนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติในระดับสูง (high risk of bias)
และจัดทำขึ้นต่างบริบท ต่างวิธีการ และต่างช่วงเวลา อีกทั้งไม่ปรากฏหลักฐานว่า หากระดับฟลูออไรด์ในน้ำประปาไม่เกินค่ามาตรฐาน จะกระทบต่อระดับสติปัญญามากน้อยเพียงใดบ้าง นอกจากนี้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า งานวิจัยชิ้นดังกล่าวเผยแพร่ออกมา 2 สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2
ทรัมป์ได้เลือกโรเบิร์ต เอฟ. เคเนดี จูเนียร์ (Robert F. Kennedy Jr.) หลานชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคเนดี (John F. Kennedy) ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ หลังจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งเคเนดีผู้หลานเคยกล่าวว่า สารฟลูออไรด์นั้นเป็น ขยะอุตสาหกรรม และเสนอว่ารัฐบาลของทรัมป์ควรแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดเติมสารฟลูออไรด์ลงในน้ำประปา ในสหรัฐฯ ค่าฟลูออไรด์ในน้ำประปาส่วนใหญ่นั้นต่ำกว่า 0.7 แต่ไม่เกิน 1.2 มิลลิกรัมต่อลิตร