หลังจากที่คุณได้ยื่นภาษีปี 2567 (หรือภาษี ปี 67 ในบางกรณี) ไปแล้ว และพบว่าคุณมีสิทธิ์ได้รับ เงินคืนภาษี จากการเสียภาษีเกิน หรือมีการหักภาษีจากรายได้มากเกินไป การขอ คืนภาษี จะเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับเงินที่คุณจ่ายเกินไปกลับคืน นี่คือขั้นตอนและวิธีการที่คุณสามารถทำเพื่อขอ คืนภาษี หลังจากยื่นภาษีแล้วเสร็จ
1. ตรวจสอบผลการยื่นภาษี
เมื่อคุณได้ยื่นภาษีประจำปี 2567 (ภาษีปี 67) ผ่านทาง กรมสรรพากร หรือช่องทางการยื่นภาษีออนไลน์ (ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารทั้งหมดถูกต้องและครบถ้วน เช่น แบบแสดงรายการภาษี (แบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91) รายการหักลดหย่อนที่สามารถขอคืนภาษีได้ และยอดรายได้ทั้งหมด
หากการคำนวณภาษีของคุณพบว่าได้ชำระภาษีเกิน หรือมีการหักภาษีจากเงินเดือนมากเกินไป เช่น ผ่านการหัก ณ ที่จ่ายจากนายจ้าง โดยไม่ตรงกับภาษีที่คุณต้องจ่ายจริง คุณจะมีสิทธิ์ขอ คืนภาษี ซึ่งจะต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไปนี้
เมื่อผลการยื่นภาษีปี 2567 (หรือปี 67) ได้ยืนยันว่า คุณมีภาษีที่ต้องการคืน ขั้นตอนต่อไปคือการทำการ ขอคืนภาษี:
กรณียื่นแบบออนไลน์ (e-Filing):
กรณียื่นแบบกระดาษ: หากคุณยื่นภาษีด้วยแบบกระดาษ และพบว่าคุณมีสิทธิ์ได้รับคืนภาษี สามารถ ยื่นคำขอคืนภาษีได้ที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ ที่คุณได้ยื่นภาษีไป
การขอคืนภาษีจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่องทางที่คุณใช้ในการยื่นภาษี
คุณสามารถ ตรวจสอบสถานะการคืนภาษี ได้ผ่านทาง เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือทาง แอปพลิเคชัน RD Smart Tax หากเงินคืนภาษีของคุณยังไม่ได้รับโอนเงิน คุณอาจต้องตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารที่ระบุในการยื่นภาษีว่าไม่มีปัญหาหรือไม่
หากการขอคืนภาษีของคุณมีปัญหาหรือเกิดข้อผิดพลาด เช่น ข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือบัญชีธนาคารไม่ตรงตามที่แจ้งในเอกสาร คุณอาจจะได้รับการแจ้งเตือนจากกรมสรรพากรหรือถูกขอให้แก้ไขข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลให้การคืนภาษีล่าช้าออกไป
การขอ คืนภาษี หลังจากยื่นภาษีเสร็จสิ้นในปี 2567 (หรือปี 67) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับเงินที่คุณจ่ายเกินไปกลับคืน การทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องและตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการคืนภาษีเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหาใดๆ อย่าลืมเก็บรักษาหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องมีการตรวจสอบในภายหลัง