เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ในวันนี้ (13 มกราคม 2568) ว่าผู้นำยูเครนยื่นข้อเสนอถึงนายคิม จอง-อึน ในการแลกตัวทหารเกาหลีเหนือ 2 นาย ซึ่งรัฐบาลเคียฟควบคุมตัวไว้ กับทหารยูเครนที่ถูกรัสเซียจับกุมเป็นเชลย โดยโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลเคียฟพร้อมแลกตัว นักรบของนายคิม จอง-อึน หากผู้นำเกาหลีเหนือสามารถจัดให้เกิดการแลกตัวเชลย กับทหารยูเครนซึ่งรัสเซียควบคุมตัวไว้ พร้อมทั้งเตือนว่ามีความเป็นไปได้ ที่ยูเครนจะสามารถควบคุมตัวทหารเกาหลีเหนือได้เพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน ( เอสบียู ) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ( เอ็นไอเอส ) ยืนยันตรงกันว่า ยูเครนสามารถควบคุมตัวทหารเกาหลีเหนือ 2 นาย เป็นตัวประกัน ระหว่างการสู้รบกัน ที่สมรภูมิในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งซึ่งมีบัตรประจำตัวทหารของกองทัพรัสเซีย กล่าวว่า เกิดเมื่อปี 2548 และประจำการอยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ปี 2564 ส่วนทหารเกาหลีเหนืออีกนายกล่าวกับเจ้าหน้าที่ ว่าเกิดเมื่อปี 2542 และเข้าประจำการอยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ปี 2559 มีตำแหน่งเป็นพลซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ ทหารทั้งสองนายกล่าวว่า ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน ว่าการเดินทางมายังรัสเซีย คือการต้องสู้รบกับยูเครน ในสถานการณ์จริง เนื่องจากผู้บังคับบัญชากล่าวเพียงว่า เดินทางมาที่นี่ เพื่อฝึกฝนทางยุทธวิธีเท่านั้น นอกจากนี้ ทหารนายหนึ่งกล่าวว่า ต้องการเดินทางกลับเกาหลีเหนือ ส่วนทหารอีกนายกล่าวว่าหากมีโอกาสขออาศัยอยู่ในยูเครน ฝ่ายความมั่นคงของยูเครนยืนยันว่า ทหารเกาหลีเหนือทั้งสองนายสนทนาผ่านล่าม ที่มีการประสานงานมายังฝ่ายความมั่นคงของเกาหลีใต้ และยืนยันว่า ยูเครนมอบความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรม ให้แก่ทหารเกาหลีเหนือทั้งสองนาย โดยเป็นการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาเวียนนา ที่ระบุว่า การสอบปากคำเชลยศึก ต้องใช้ภาษาที่นักโทษถนัดที่สุด และนักโทษต้องได้รับการปกป้องสิทธิ อนึ่ง สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า นับตั้งแต่ทหารเกาหลีเหนือเข้าสู่สมรภูมิของสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างเต็มตัว ด้วยการสนับสนุนการสู้รบของรัสเซีย ในภูมิภาคเคิร์สก์ เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตแล้วราว 1,100 นาย ส่วนยูเครนให้ตัวเลขไว้สูงกว่า คือราว 3,000 นาย