การปฏิบัติการติดตามและช่วยเหลือ น.ส.อู๋ เจียฉี และ น.ส.หลิว ลู่อิง ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ฝ
วันที่ 13 มกราคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะ นีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ได้เปิดเผยความสำเร็จในกรณีการช่วยเหลือ น.ส.อู๋ เจียฉี และ น.ส.หลิว ลู่อิง นักท่องเที่ยวชาวจีนที่หายตัวไปอย่างลึกลับหลังเดินทางมาประเทศไทย
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 23.35 น. สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งความจากนายอู๋ เหว่ยตง ชาวจีน ว่าไม่สามารถติดต่อกับบุตรสาว น.ส.อู๋ เจียฉี และเพื่อนของเธอ น.ส.หลิว ลู่อิง ได้ หลังทั้งสองเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เวลา 01.59 น.
นายอู๋ เหว่ยตงระบุว่า ขณะอยู่ที่ประเทศจีน เขาได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชัน WeChat จากอดีตภรรยา ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของบุตรสาวมายังประเทศไทย แต่หลังจากนั้น ทั้งสองก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ครอบครัวเกิดความกังวลต่อความปลอดภัย
หลังรับแจ้งความ พล.ต.อ.ธัชชัยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- ตำรวจท่องเที่ยว
- ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
ประสานงานร่วมกับทางการจีนทันที เพื่อเร่งติดตามหาตัวบุคคลที่สูญหาย
จากการสืบสวน พบว่าทั้งสองได้เดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งทำให้ต้องขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการติดตามตัว จนในที่สุดทางการจีนสามารถพาทั้งสองกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความโล่งใจให้กับครอบครัวของผู้สูญหายและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย นายอู๋ เหว่ยตง เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม 2568 เพื่อทำการถอนแจ้งความ
กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานไทยและต่างประเทศ และยืนยันถึงความสำคัญของการสื่อสารที่รวดเร็วและเป็นระบบ
การช่วยเหลือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปกป้องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าระวังในพื้นที่ท่องเที่ยว การเพิ่มการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ หรือการสร้างช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย