มุกดาหาร เมืองริมโขงที่ซ่อนเรื่องราวอันน่าทึ่งไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่ตอกย้ำความรุ่งเรืองของอารยธรรมโบราณในดินแดนไทย นั่นคือ กลองมโหระทึก ใบยักษ์ อายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ที่ถูกขุดพบเมื่อปี 2563 ณ ดินแดนแห่งนี้
จินตนาการดูภาพเหล่าบรรพบุรุษของเรา ยืนอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง กำลังร่ายรำไปกับเสียงอันกึกก้องของกลองมโหระทึกใบนี้ เสียงที่ดังกังวานไปทั่วท้องทุ่ง ก้องกังวานไปทั่วผืนป่า เสียงที่เล่าเรื่องราวของชีวิต ความเชื่อ และวิถีการดำรงอยู่ของผู้คนในยุคสมัยนั้น
กลองมโหระทึกใบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดนตรีโบราณ แต่ยังเป็นเหมือน “ประติมากรรมเสียง” ที่บรรจงสร้างสรรค์ด้วยฝีมืออันประณีตของช่างผู้มากฝีมือ ลวดลายอันซับซ้อนบนหน้ากลอง ทั้งรูปกบสี่ตัวที่เรียงรายอยู่รอบริมขอบ ลายดาว 12 แฉกที่สื่อถึงดวงอาทิตย์ และลายอื่นๆ อีกมากมาย ต่างเล่าเรื่องราวความเชื่อและความศรัทธาของผู้คนในยุคนั้น
เมื่อได้สัมผัสกับกลองมโหระทึกใบนี้ เราจะรู้สึกถึงพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน เสียงที่เคยดังกึกก้องเมื่อหลายพันปีก่อน ยังคงแผ่วเบาให้เราได้ยินผ่านกาลเวลา มันเป็นเหมือนสะพานเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เชื่อมโยงเราเข้ากับบรรพบุรุษของเรา และกับผู้คนที่ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมอันยาวนานนี้
การค้นพบกลองมโหระทึกใบนี้ เป็นการยืนยันว่า ดินแดนไทยของเรานั้นอุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า และเป็นการกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกเหล่านี้ต่อไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในอดีตอันรุ่งเรืองของชาติ
ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของกลองมโหระทึกใบนี้ เราจะรู้สึกถึงความเป็นไทยที่อยู่ในสายเลือด และตระหนักว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยาวนาน