นก จริยา แอนโฟเน่ ผู้จัดละครชื่อดัง และอดีตแนวร่วม กปปส. ได้ออกมายืนยันว่า ที่หันไปซบช่องโมโนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทางช่อง 3 โดยบอกว่า จริงๆ แล้วในความผูกพันของเรากับช่อง 3 ที่นี่ตัดสายสะดือให้เราเกิดเลยนะ ความสัมพันธ์ ความเคารพกับช่อง 3 ก็ยังเหมือนเดิม แล้วเมื่อเรามีการปรับรูปแบบงาน เราก็เดินเข้ามาแจ้งผู้ใหญ่ ท่านก็ให้คำแนะนำที่ดี มันเป็นปกติของการทำงาน มันต้องมีการปรับบ้าง ผู้ใหญ่ก็ยังบอกว่าเราไม่ได้ขาดกันไปไหนนะ เราก็ยังกลับมาทำงานกันเหมือนปกติ เราว่าเราตรงไปตรงมา เรียบง่าย และคุยกันผู้ใหญ่ก็ให้ความเมตตาเสมอมา แล้วทางฝั่งโมโนก็ให้เกียรติ คือเราคุยกันเรื่องงาน เราเอาผลงานที่ดีๆ ไปเสนอ แล้วมันอาจจะยังไม่ลงล็อกกับทางช่อง 3 ซึ่งแต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเอง เราทุกฝ่ายเข้าใจกันดี โดยเป็นการปรับรูปแบบการทำงาน ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว มีการถ่ายเท มีการเขย่า งานมันไม่ควรอยู่นิ่ง ควรปรับกันอยู่เรื่อยๆ รูปแบบมันจะถูกปรับเปลี่ยน ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังสู้กันเต็มที่ ด้วยความเข้าใจกัน
ส่วนสู้ให้ละครกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งใช่หรือไม่? นก จริยา บอกว่า ใช่ สู้เพื่องานที่เรารัก เพื่อครอบครัวของคนที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิง แล้วสิ่งหนึ่งที่เราคิดตลอด คือคนไทยไม่ได้ไม่มีคุณภาพ หรือด้อยไปกว่าต่างชาติ แต่ที่ผ่านมามันถูกตีกรอบ อันนี้เล่าได้ อันนี้เล่าไม่ได้ อันนี้แตะได้ อันนี้แตะไม่ได้ ซึ่งบางทีความเป็นสากลเขาเล่าได้เยอะกว่าเรา ทุนเขาสูงกว่าเรา เขาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเยอะกว่าเรา เรายกตัวอย่างเลยว่าเกาหลีเนี่ย ภาครัฐเขาส่งคนไปเรียนเพื่อนำอุตสาหกรรมต่างๆ ออกไปเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่า K-Pop, ซีรีส์ และหนัง เขานำ นั่นคือเป็นการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจริงๆ ขออนุญาตพูดเลยนะว่าบ้านเราไม่เคยได้รับการลงทุนจากภาครัฐ เรื่องไหนดังก็ไปเกาะ เห็นไปเกาะเขา จริงๆ ถ้าคุณหันมาดูแลอุตสาหกรรมบันเทิงให้เต็มที่ ข้าวไทย อาหารไทย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปแบบของคนไทย ที่เราจะไปนำให้คนต่างชาติเขามาเที่ยวเมืองไทย มันมหาศาล แต่เห็นงบที่ออกมาแล้วก็อยากร้องไห้ เหมือนว่าบ้านเราต้องรอให้สำเร็จก่อน แล้วผู้ใหญ่ถึงจะพุ่งเข้ามาหา อย่างบุพเพสันนิวาส เห็นไหมว่า ไม่ร่วมรบ ไม่ร่วมชูป้าย ไม่ร่วมสนับสนุนสินค้าไทย ไม่ร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยไปกับเรา ตอนหนังสัปเหร่อดังก็เป็นยังไงล่ะ
ส่วนผู้จัดมีการคุยกันไหมว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง? นก จริยา บอกว่า เราพูดเรื่องนี้กันมานานมากแล้วค่ะ เราว่า Vision ของผู้ใหญ่ ถ้าคิดได้ไวกว่านี้ 10-20 ปี แรงไปไหม เราพูดความในใจ แต่เป็นสิ่งที่จริง เพราะมันเป็นสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจมาตลอดเลยว่าเด็กบ้านเราที่เก่งๆ ไปทำงานเมืองนอกหมดเลย กับอุตสาหกรรมไหนๆ ก็แล้วแต่นะคะ แม้แต่อุตสาหกรรมบันเทิง แต่เกาหลีเขาส่งไปเรียน แล้วเอากลับมาทำงานที่เกาหลี แล้วส่งออกไปขาย อย่างแดจังกึม เรากินอาหารเกาหลีเป็นเพราะอะไร เพราะเราดูจากสื่อบันเทิงนี่แหละ ดูลิซ่าเราก็ไปเกาะน้องต้อยๆ จริงๆ ต้องขอบคุณลิซ่านะ เรานิสัยไม่ดีไหมที่พูดอย่างนี้ แต่เราขอพูดความในใจว่าเราเสียดาย แล้วเราก็ยังพยายามสู้เพื่อหลายๆ ครอบครัวที่เราดูแล และอยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิงด้วยกัน เราก็ฝากสื่อมวลชนด้วยว่าอยากให้เป็นกระบอกเสียง ถ้าคุณเข้าใจการวิ่งไปของสื่อที่มันอยู่ที่ปลายนิ้ว เราเห็นได้ชัดมากล่าสุด จากที่ลิซ่านี่ออกไปตั้งไม่รู้กี่ร้อยล้านวิวแล้วว่าเมืองไทยตรงนี้อะไรใดๆ จะคิดช้าเกินไปก็ไม่สายนะ ถ้าจะกลับมาช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทย อาหารไทย แหล่งท่องเที่ยวไทย ผ้าไทย มันจะได้เงินไหลเข้าประเทศ หลายๆ อุตสาหกรรมจะได้ยังคงอยู่ และเติบโตไปด้วยการบูรณาการ อายจังเลยมาพูด แต่มันเป็นความในใจ ก็ฝากๆ น้องๆ สื่อ ไม่งั้นเราจะเสียดายอีกหลายอาชีพกับสินค้าของเรา ที่ควรจะนำเงินเข้าประเทศได้