เรื่องนี้ต้องย้อนไปในปี 2019 โดยในงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีของบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยบริษัทต้องการสร้างบรรยากาศรื่นเริง จึงได้เหมาซื้อลอตเตอรี่มากกว่า 500 ใบ มาแจกให้พนักงานทุกคน ปรากฏว่าพนักงานรายหนึ่งโชคดี ถูกรางวัลลอตเตอรี่มูลค่ามากกว่า 6 ล้านหยวน (ราว 28 ล้านบาท) สร้างความฮือฮาให้กับพนักงานในงานเลี้ยง หลายคนแชร์ความตื่นเต้นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบอกว่า มาร่วมงานกับบริษัทของเราสิ รางวัลลอตเตอรี 6 ล้าน
รางวัลเป็นเพียงสิ่งตอบแทนปกติเท่านั้น ส่งข้อความหาฉันเพื่อขอตำแหน่งงานว่างอีกคนโพสต์บอกว่า งานเลี้ยงประจำปีของเรามีการแจกลอตเตอรี่ และมีคนถูกรางวัลแจ็กพอต โดยทั่วไป ลอตเตอรี่นี้ถือว่าเป็นของพนักงานรายนี้แล้ว และเขาและเธอสามารถไปขึ้นเงินรับรางวัลแต่เพียงผู้เดียวได้ แต่ทางบริษัทกลับขอให้พนักงานรายนี้คืนรางวัลดังกล่าว เพื่อนำรางวัลแจ็กพอตมาแบ่งให้กับทุกคนในงาน แน่นอนว่าพนักงานรายนี้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม จนเกิดข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้น และไปจบลงที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ตำรวจจากเขตหยินโจว เมืองหนิงปัว ยืนยันว่า ได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว นี่เป็นข้อพิพาททางแพ่ง และเราแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหานี้ผ่านช่องทางกฎหมาย
ทั้งนี้ แหล่งข่าววงในเผยว่า การจับฉลากลอตเตอรี่เกิดขึ้นจริงเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2019 สองวันก่อนที่ตั๋วจะถูกแจกในงานเลี้ยงประจำปี โดยบริษัทได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่การเงินว่า ตั๋วที่ซื้อมาไม่มีใบไหนถูกรางวัลเลย ก่อนที่จะแจกให้กับพนักงาน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเกิดจากความผิดพลาด
ทำให้ตั๋วที่ถูกรางวัลหลุดรอดไปถึงมือพนักงาน ถัง ไช่จง ทนายความจากสำนักงานยุติธรรมเมืองหนิงปัว กล่าวว่า การกระทำของบริษัทถือเป็นสัญญาการให้ของขวัญ เพราะเมื่อตั๋วถูกแจกให้กับพนักงานแล้ว ถือว่าสิทธิในตั๋วเหล่านั้นจะถูกโอนไปยังผู้รับ แม้ว่าหมายเลขที่ถูกรางวัลจะถูกจับฉลากไปแล้วและบริษัทไม่ทราบผล แต่กฎหมายสัญญาไม่อนุญาตให้เพิกถอนของขวัญดังกล่าวได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้น การเรียกร้องของบริษัทในการเรียกคืนตั๋วและแบ่งปันรางวัลกับผู้เข้าร่วมทุกคนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความโกรธแค้นบนโลกออนไลน์จีน ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า เมื่อให้ของขวัญไปแล้วก็ไม่สามารถเอากลับคืนได้ นั่นเป็นสามัญสำนึก