โดยเมื่อวานนี้ (17 มกราคม 2568) เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์แจ้งเหตุพัสดุต้องสงสัยที่ถูกทิ้งไว้บริเวณหน้ารางรถไฟ สถานีรถไฟประจวบฯ จึงประสาน พ.ต.ท.หญิง สุภาพร ดวงกันยา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ นำโดย พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และนายประสูติ หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 7 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบ หลังตรวจสอบกล่องโฟมจำนวน 7 ใบที่ห่อด้วยถุงพลาสติกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่พบยาไอซ์บรรจุในห่ออลูมิเนียมฟอยล์ น้ำหนักรวม 100 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท โดยการตรวจสอบใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยมีรายงานเบื้องต้นว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบมีผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดเฝ้ารอในพื้นที่อย่างน้อย 2 ราย จึงเร่งวางแผนจับกุม งดบันทึกภาพและเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้นต่อสื่อ โดยระหว่างตรวจสอบพัสดุ มีชายวัยรุ่นแต่งกายคล้ายกับนักท่องเที่ยว ได้เข้ามาสอบถามเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟเกี่ยวกับการเปลี่ยนตั๋ว โดยท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าพูดคุยและเชิญตัวชายคนดังกล่าวไปสอบถามในห้องพักนานกว่า 30 นาที ต่อมาทราบชื่อคือ นายกิตติวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวสมุทรปราการ ซึ่งพบพฤติการณ์เชื่อมโยงกับขบวนการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว ขยายผลการสอบสวนเพิ่มเติม ข่าว ระบุว่า พัสดุต้องสงสัยดังกล่าวถูกส่งจากต้นทางที่ สถานีบางซื่อ ปลายทางหาดใหญ่ ผ่านขบวนรถไฟพิเศษ 985 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก แต่กลับถูกเปลี่ยนจุดหมาย ขนส่งมาที่สถานีประจวบฯ คาดว่าขบวนการยาเสพติดเปลี่ยนสถานที่ปลายทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมที่สถานีหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม พัสดุถูกทิ้งไว้ข้ามคืนจนผิดสังเกต เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีบุคคลแปลกหน้ามีพฤติกรรมต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ ก่อนนำไปสู่การตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือเพื่อดำเนินคดีต่อไป