20 สายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก
1. Ashera แมวแอชร่า
ราคาสูงสุดประมาณ $125,000 (ประมาณ 4.3 ล้านบาท)
ลักษณะเด่น:
ลักษณะนิสัย:
ความพิเศษของสายพันธุ์ Ashera และจำนวนที่ผลิตในแต่ละปีมีอย่างจำกัด ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในแมวที่มีราคาแพงและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก และสิ่งที่ทำให้ Ashera โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกคือนิสัยของมัน ซึ่งว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายสุนัขมากกว่าลักษณะนิสัยทั่วไปของแมว โดยมีความเป็นมิตรและชอบเข้าสังคมมากกว่าแมวส่วนใหญ่
2. Savannah แมวซาวันนา หรือ แมวซาวานนา
ราคา 10,000–50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 340,000–1,700,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวซาวันนา หรือ แมวซาวานนา ยังคงความเป็นแมวป่าไว้อย่างชัดเจน ด้วยความแปลกใหม่และลักษณะพิเศษ ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแมวบ้านทั่วไป เนื่องจากธรรมชาติที่ใกล้เคียงกับสัตว์ป่า Savannah ถูกสั่งห้ามเลี้ยงในกว่า 12 รัฐของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีการเพาะเลี้ยงในกรงเลี้ยงมานานเกือบ 100 ปี เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์และเข้าใจในธรรมชาติของแมวป่าอย่างลึกซึ้ง ความงดงามที่แปลกใหม่และนิสัยอิสระของมันทำให้เป็นที่ต้องการสำหรับคนรักแมวที่มองหาเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. Bengal แมวเบงกอล ราคา 10,000–25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (340,000–860,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวเบงกอล หรือบางครั้งเรียกว่า แมวเสือดาวเบงกอล เป็นแมวที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยลายจุดคล้ายเสือดาวและรูปลักษณ์ที่มีความเป็นสัตว์ป่าชัดเจน แมว Bengal ต้องมีสายเลือดไม่เกิน 4 รุ่นจากแมวป่า เพื่อที่จะถือเป็น Bengal แท้ โดยแมวตัวแรกๆ ของสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 โดยการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้านและ Asian Leopard Cat ลักษณะที่สวยงามและมีความเป็นสัตว์ป่าของ Bengal ทำให้มันเป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่ก็มีความท้าทายในการเลี้ยงดู เนื่องจากต้องการการดูแลและความเอาใจใส่เป็นพิเศษ
4. Khao Manee แมวขาวมณี หรือ แมวตาเพชร
ราคา 10,000–11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (340,000–380,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวขาวมณี เป็นแมวที่หายากและมีลักษณะเด่นคือขนสีขาวสะอาดตาและดวงตาที่แวววาวเหมือนอัญมณี ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ แม้ว่าอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ แต่แมว Khao Manee เป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่และได้รับการเลี้ยงดูอย่างลับ ๆ โดยคนไทยมาหลายร้อยปีแล้ว และเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความพิเศษไม่เพียงแค่ในเรื่องของรูปลักษณ์ แต่ยังมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภในวัฒนธรรมไทย
5. Sphynx แมวสฟิงซ์
ราคา 1,800–9,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 60,000–330,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวสฟิงซ์ หรือบางครั้งเรียกว่า แมวไร้ขนสฟิงซ์ เป็นแมวที่โดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ ด้วยลักษณะที่ไม่มีขนและดวงตากลมโตที่ดึงดูดความสนใจ ความไม่มีขนของ Sphynx เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ทำให้พวกมันมีปัญหาสุขภาพแต่อย่างใด แมว Sphynx เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงแมวที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และดูแลได้ง่ายแม้จะไม่มีขน
6. Persian แมวเปอร์เซีย
ราคา 1,500–5,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 51,000–187,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวเปอร์เซียเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่มีอายุยาวนานที่สุดในโลก โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันว่าแมวพันธุ์นี้มีการเลี้ยงดูมาเป็นพันๆ ปี แมวพันธุ์ Persian เป็นที่รู้จักในด้านความน่ารักและอ่อนโยน พร้อมทั้งขนยาวนุ่มที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับลุคที่โดดเด่นของมัน
7. Toyger แมวทอยเกอร์
ราคา 3,000–5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 102,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวทอยเกอร์เป็นแมวที่มีลักษณะคล้ายเสือจากธรรมชาติ แต่เป็นแมวบ้านที่ไม่ได้มาจากสัตว์ป่า Toyger ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้เพาะพันธุ์เดียวกับที่สร้าง Bengal โดยการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้านพันธุ์สั้นและแมว Bengal ที่มีลายเสือ จุดเด่นของ Toyger คือ ลายเสือที่คล้ายเสือจริง ๆ แม้ว่ามันจะเป็นแมวที่ไม่เหมือนสัตว์ป่าก็ตาม แมว Toyger เป็นที่ต้องการสำหรับผู้เลี้ยงที่ชอบลักษณะภายนอกที่ดูแปลกใหม่และน่าสนใจ แต่ต้องการแมวที่มีอารมณ์ดีและไม่ยากต่อการดูแล
8. Peterbald แมวปีเตอร์บอลด์
ราคา 2,500–5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 85,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวปีเตอร์บอลด์เป็นแมวที่มีความหลากหลายในการลักษณะร่างกาย บางตัวไม่มีขนเลย ขณะที่บางตัวมีขนอ่อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนผิวของลูกพีช แม้ว่าในบางตัวจะมีขนหยาบที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับผิวหน้าเมื่อเครากำลังขึ้น แมวพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดจากรัสเซียและเพิ่งเริ่มได้รับความนิยม โดยเริ่มมีการรายงานครั้งแรกในปี 1988 เมื่อแมวพันธุ์ Russian Donskoy ผสมกับ Oriental Shorthair ทำให้เกิดแมวพันธุ์ Peterbald ตัวแรกขึ้นมา แมวปีเตอร์บอลด์เป็นแมวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแมวที่มีลักษณะไม่เหมือนใครและต้องการแมวที่มีการดูแลไม่เหมือนแมวทั่วไป
9. Ragdoll แมวแร็กดอลล์
ราคา 1,000–5,000+ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 34,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวแร็กดอลล์เป็นแมวที่มีหลากหลายราคา โดยแมวแร็กดอลล์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $1,000 และอาจสูงขึ้นถึง $2,500 หากเป็นแมวแร็กดอลล์ที่มีคุณภาพสำหรับการแสดง (show-quality) ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ $1,500 และอาจสูงถึง $4,000 สำหรับ Ragdoll ที่เหมาะสำหรับการผสมพันธุ์ ราคาจะเริ่มต้นที่ $2,000 และสามารถพุ่งสูงกว่า $5,000 แมวแร็กดอลล์เป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ที่ต้องการแมวที่มีบุคลิกอ่อนโยนและเป็นมิตร ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการเพื่อนซี้ขนยาว
10. Siberian แมวไซบีเรียน
ราคา 1,200–4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 40,000–136,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
เป็นหนึ่งในแมวพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แม้ว่าจะยังคงมีขนาดเล็กกว่าพันธุ์ Maine Coon พวกมันมีชื่อเสียงในเรื่องของความเป็นมิตรและขี้เล่น สามารถเข้ากับเด็ก แขก และแม้แต่สุนัขได้ดี นอกจากนี้แมว Siberian ยังมีขนหนา 2 ชั้นที่ช่วยป้องกันความหนาวเย็นจากฤดูหนาวในไซบีเรีย แต่กลับกลายเป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เพราะน้ำลายของพวกมันผลิตสารก่อภูมิแพ้น้อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มองหาสัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะภายนอกสวยงามและมีนิสัยดี สามารถเป็นเพื่อนเล่นได้ทั้งกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ
11. Maine Coon แมวเมนคูน
ราคา 1,000–4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 34,000–136,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวเมนคูนเป็นแมวพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแมวพันธุ์บ้าน โดยบางตัวสามารถมีน้ำหนักเกิน 30 ปอนด์ (ประมาณ 13.6 กิโลกรัม) จึงทำให้มันเป็นหนึ่งในแมวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แมวเมนคูน ยังเคยทำลายสถิติโลกสำหรับแมวที่ยาวที่สุด ซึ่งแมวตัวหนึ่งชื่อ Stewie วัดความยาวได้ถึง 48.5 นิ้ว (ประมาณ 123 เซนติเมตร)
12. Scottish Fold แมวสกอตติชโฟลด์
ราคา 500–3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000–102,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่มีลักษณะคล้ายแมวบ้านทั่วไป แต่มีความโดดเด่นที่หูของมันซึ่งพับลงไปข้างหน้าและแบนบนศีรษะเนื่องจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นเองในแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงในฟาร์มในสกอตแลนด์ แมวพันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อตามลักษณะของหูที่พับลงไป และแมวทุกตัวที่เป็น แมวสกอตติชโฟลด์สามารถย้อนกลับไปถึงแมวตัวแรกชื่อ Susie ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพันธุ์นี้
13. Russian Blue แมวรัสเซียนบลู
ราคา 500–3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000–102,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวรัสเซียนบลู หรือที่รู้จักกันในชื่อ แมวอาร์คแองเจล เป็นแมวพันธุ์ที่มีขนสีเทาที่ให้ความรู้สึกเหมือนสีน้ำเงินเมื่ออยู่ภายใต้แสง แมวพันธุ์นี้ถือเป็นแมวที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากมันมีอาการภูมิแพ้น้อยและถูกจัดให้เป็นพันธุ์ที่ไม่ก่อภูมิแพ้มาก พวกมันเป็นแมวที่มีพลังและขี้เล่น แต่ก็มีนิสัยที่สงบและเป็นมิตร แมวรัสเซียนบลูเป็นที่นิยมในผู้ที่มองหาแมวที่มีลักษณะสวยงามและเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้
14. British Shorthair บริติชชอร์ตแฮร์
ราคา 800–2,000ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–68,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวบริติชชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่มีลักษณะหนาและขนสั้นที่น่ารัก ซึ่งมีลักษณะใบหน้ากว้างและบุคลิกที่รักการเข้าสังคม แมวพันธุ์นี้มาจากแมวบ้านในยุคโรมันและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน นอกจากรูปลักษณ์ที่น่ารักแล้ว พวกมันยังเป็นแมวที่รักและอยู่กับผู้คนได้ดี ราคาของแมวพันธุ์นี้จะเริ่มต้นที่ประมาณ $800 แต่บางตัวอาจมีราคาสูงถึง $2,000 ขึ้นอยู่กับคุณภาพและสายพันธุ์
15. Egyptian Mau แมวพันธุ์อียิปเตียนโม
ราคา 800–1,800 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 27,000–61,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวพันธุ์อียิปเตียนโมเป็นแมวพันธุ์ที่มีขนลายจุด ซึ่งทำให้มันดูเหมือนแมวป่า พวกมันเป็นพันธุ์เดียวที่มีขนลายจุดตามธรรมชาติ และมีความนิยมสูงเนื่องจากรูปลักษณ์ที่สวยงามและความภักดีที่มีต่อเจ้าของ แมวพันธุ์นี้สามารถมีราคาได้สูงถึง $1,800 ขึ้นอยู่กับคุณภาพ
16. Norwegian Forest Cat แมวป่านอร์เวย์
ราคา 800–1,500ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–51,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวป่านอร์เวย์ เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นจากขนาดใหญ่และขนหนาฟูเหมาะสมกับสภาพอากาศหนาวเย็นของประเทศนอร์เวย์ พันธุ์นี้มีลักษณะทางกายภาพและบุคลิกที่น่าสนใจ และมีประวัติยาวนานในภูมิภาคเหนือของยุโรป แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มีทักษะการปีนต้นไม้และสามารถล่าสัตว์ได้ดี
17. Selkirk Rex แมวเซลเคิร์กเร็กซ์ หรือ แมวขนหยิกเซลเคิร์ก
ราคา 600–1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000–51,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
แมวเซลเคิร์กเร็กซ์ หรือ แมวขนหยิกเซลเคิร์ก เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นจากขนที่หยิกและม้วนไปมา ซึ่งแตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ ที่มีขนตรงหรือขนยาว พันธุ์นี้เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะพิเศษและเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวที่ชอบแมวขนหยิก
18. American Curl อเมริกันเคิร์ล
ราคา 800–1,200 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 27,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
อเมริกันเคิร์ล เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นคือ หูที่งอ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของพันธุ์นี้ โดยหูของแมวพันธุ์นี้จะงอไปข้างหลังตั้งแต่เกิดและยังคงงอตลอดชีวิต
19. American Wirehair แมวอเมริกันไวร์แฮร์
ราคา 800–1,200ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่นของ :
แมวขนสั้นอเมริกันเป็นแมวที่หายากและมีขนหยาบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ ทั่วไป แมวพันธุ์นี้ค่อนข้างขี้อายในตอนแรก แต่ผูกพันกับครอบครัวอย่างแนบแน่นและรักเด็ก
ราคา 600–1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่นของ :
แมวอเมริกันช็อตแฮร์ เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากบุคลิกที่รักการเข้าสังคมและมีการดูแลง่าย มีต้นกำเนิดจากแมวที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ตั้งถิ่นฐานในอเมริกา